ขอเล่าถึงงาน Asian E-Tailing Summit ที่ผมเข้าร่วมเมื่อวานให้ฟังครับ
งานนี้จัดโดย HKTDC หรือ Hong Kong Trade Development Council เป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้าของฮ่องกง
งานนี้ผมได้เชิญมาในนาม นายกสมาคม Thai Ecommerce Association
ต้องขอชมว่า HKTDC จัดงานและดูแลได้แบบ Professional มากๆ อำนวยความสะดวกผู้มาพูดในงานทุกระดับ เครื่องบิน ที่พักระดับ 5 ดาว ทำให้เรารู้เลยว่าฮ่องกงลงทุนกับการส่งเสริมการค้าแบบจริงจังมาก
มาเล่าถึงงาน Asian E-Tailing Summit
ปีนี้จัดเป็นปีที่สองละ โดยจัดงานร่วมกับหลายๆงานติดกัน เช่น SmartBiz Expo และ Franchise Expo
พบว่า HKTDC มีพลังในการชวนผู้นำสมาคมการค้าปลีกและการค้าออนไลน์ของ Southeast Asia มาร่วมแชร์มุมมองกันได้อย่างคึกคัก (ก็เล่นให้ตั๋ว Biz Class เทียบเชิญกันมาเลย)
ประเทศที่เข้าร่วม ไทย(ผมเอง) มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พม่า ฮ่องกง(เจ้าภาพ มากันตรึม) เป็นเวทีที่ได้มุมมองหลากหลายดีมากๆ
เวทีที่ผมร่วมเป็นเวทีเสวนาโต๊ะกลม มีผู้เข้าร่วมพูดคุยนับ 20 คน ล้วนเป็นคนในวงการค้าปลีกและค้าออนไลน์ทั้งสิ้น
ธีมหลักที่พูดคุยกันเน้นๆคือเรื่อง Omni-Channel, Cross Border, Big Data, AI และ E-Payment
ฮ่องกงตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี 2 ด้าน
1. อยู่ใกล้จีน เชื่อมสู่ SEA พอดี
2. อยู่ตรงกลางระหว่าง West Countries
และอีกเรื่องสำคัญคือ ฮ่องกง เป็น Free Port! ไม่มีภาษีขาเข้าและส่งออก
เราจึงเห็นเลยว่าทั้ง Lazada และ Shopee ต่างตั้งบริษัทในฮ่องกงเป็นศูนย์กระจายสินค้าส่งเข้าสู่ประเทศต่างๆใน SEA และมีการพยายามหาร้านค้า Global มาเข้าร่วมจริงจัง (อย่างที่เคยแชร์ไปว่าสินค้าใน Emarketplace 80% คือ Cross Border)
ขั้นตอนคือ ร้านค้า Global ส่งสินค้ามาที่ศูนย์กระจายสินค้าของ Lazada และ Shopee (ต่อไปเรียก LZSH) ที่ฮ่องกง และ LZSH จะดูแลกระจายลงแต่ละประเทศให้ คือช่วยอำนวยความสะดวกแบบ End to End ให้จนถึงมือลูกค้า
อนาคตเห็นชัดว่าสินค้า Cross Border จะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ Jack Ma บอกว่า Globalization ใครๆก็ห้ามไม่ได้ และสินค้ายุคต่อไปคือ Made in Internet น่าจะชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้ยืนยันได้อีกทางจากการที่ผมได้ไปดูงานบริษัทช่วยส่งของข้ามโลกแห่งนึงในฮ่องกง
เค้าอำนวยความสะดวกให้คนฮ่องกง สามารถสั่งสินค้าออนไลน์จาก Amazon, Target, Walmart มาได้ในราคาขนส่งถูกมากๆ ถูกกว่าสั่งส่งเข้ามาตรงๆ
คนฮ่องกงนิยมใช้มากๆเพราะว่าสินค้าหลายๆแบรนด์ราคาถูกกว่าซื้อในประเทศ เช่น SuperDry, Carter, Lego
จากที่เดินทัวร์ในคลัง จะเห็นแต่กล่องสินค้า Amazon เต็มไปหมด ถึงขนาด Amazon จัดรถบรรทุกขนให้เค้าเลยทุกวันในประเทศอเมริกา
เอาเรื่อง Cross Border ไว้เท่านี้ก่อน แล้วไว้จะมาต่อเรื่อง Omni-Channel นะครับ
และขอบคุณ HKTDC มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
3 thoughts on “งาน Asian E-Tailing Summit 2018 พูดอะไรกันบ้างเกี่ยวกับ Cross Border Ecommerce”