“ตื่นตัวยุคดิจิตอล” ไม่ปรับก็ต้องไป ความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการ

ตื่นตัวยุคดิจิตอล” ไม่ปรับก็ต้องไป ความท้าทายใหม่ของผู้ประกอบการ

เรามาถึงจุดที่ดิจิตอลเข้ามาในชีวิตประจำวันอย่างเต็มตัวกันแล้วนะครับ โลกไร้พรมแดนที่เราสามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา ยุคดิจิตอลที่ช่วยสร้างโอกาสต่างๆให้เราในชีวิตประจำวัน รวมถึงโอกาสมหาศาลทางธุรกิจ ทุกวันนี้หากใครยังเข้าไม่ถึงโลกดิจิตอลก็เปรียบเหมือนเป็น “คนตกยุค” ไปซะแล้ว หลายท่านอาจสงสัยว่า มันเป็นไปได้จริงหรือที่ยุคดิจิตอลได้เข้ามามีอิทธิพลต่อเราถึงขนาดนี้ มันเป็นไปแล้วครับ หลายปีมานี้ผมเห็นถึงความชัดเจนของสื่อออนไลน์ที่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดจากสื่อดั้งเดิมเป็นอย่างมาก และได้สร้างผลกระทบให้กับวงการสื่อทั่วโลก ผมขออ้างอิงจากเหตุการณ์ ดังนี้ครับ

  • สื่อดิจิตอลโตแซงหน้าสื่อกระแสหลัก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกามีรายงานจาก eMarketer ถึงเม็ดเงินที่ใช้ในการโฆษณาในสื่อดิจิตอลซึ่งมากถึง 7.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 8% ของตลาด ซึ่งประเภทของโฆษณาที่มีเงินสะพัดมากที่สุด ได้แก่ โฆษณาประเภท Display และการค้นหา (Search) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าโฆษณาในสื่อดิจิตอลจะโตแซงสื่อทีวีเป็นครั้งแรกในประวิติการณ์ด้วยครับ สำหรับประเทศไทยเองจากปีที่ผ่านมาสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ได้เปิดเผยมูลค่าการใช้สื่อในปี 2559 (Media Spending) โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา การใช้งบประมาณในการซื้อสื่อลดลง -6.1%  โดยสื่อที่มีการเติบโตสูงสุดคือสื่อออนไลน์  73.7% ในขณะที่สื่อโทรทัศน์มีงบโฆษณาลดลง แต่ทีวีดิจิตอลมีการเติบโตขึ้นถึง 6% เป็นอย่างไรกันบ้างครับระลอกคลื่นดิจิตอลที่ซัดเข้ามามีความรุนแรงขึ้นทุกทีเลยนะครับ

US Digital Ad Spending to Surpass TV this Year by eMarketer

  • สื่อสิ่งพิมพ์ทยอยปิดตัว บ้างก็ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้อยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารที่อยู่ในสังคมไทยมาหลายทศวรรษ หรือนิตยสารหัวนอกต่างพากันปิดตัวลง เนื่องด้วยรูปแบบพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หลายปีก่อนที่จะมีข่าวการปิดตัวนิตยสารฉบับต่างๆ ผมเห็นว่าบางเล่มก็ได้ปรับเปลี่ยนตัวเองโดยเพิ่มคอนเทนต์ดิจิตอลเข้าไป แรกเริ่มเดิมทีก็แถมฟรีไปกับลูกค้าที่ซื้อสื่อในเล่ม หลังๆพอดิจิตอลเป็นที่นิยมก็ขายเป็นแพ็คคู่ หรือแยกขายก็มี หรือแม้กระทั่งหนังสือพิมพ์เองที่มีการซื้อสื่อโฆษณากันมากเห็นจะเป็นแบบ Free Copy หรือหนังสือพิมพ์ที่แจกฟรีตามจุดต่างๆ เรียกได้ว่าสื่อสิ่งพิมพ์ต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่ในกระแสโลกยุคดิจิตอลต่อไป

เศร้า! วิกฤติสื่อไทยทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว พาเหรดปิดตัวตลอดปี 2559 โดย ไทยรัฐออนไลน์

พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงกันรึยังครับ? สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่ลุกขึ้นมาเตรียมความพร้อมเพื่อรับกระแสโลกดิจิตอล บอกไว้ตรงนี้เลยครับ คุณพลาดแล้ว!! แต่ไม่เป็นไรครับ ผมมีเทคนิคง่ายๆในการพิชิตใจลูกค้ายุคดิจิตอลไว้ให้ ลงมือทำตอนนี้ได้เลยครับ!

  1. ตีโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคให้แตก เข้าถึงใจผู้บริโภคยุคดิจิตอลตัวชี้วัดความสำเร็จผู้ประกอบการ

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนครับว่าผู้บริโภคยุคนี้มีพฤติกรรมอย่างไร สื่อประเภทไหนที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม ถึงแม้ว่าสื่อออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้นทุกขณะ แต่กลับมีอีกหนึ่งรายงานจาก INTAGE ว่าผู้บริโภคกลุ่มผู้ใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 41-55 ปี ยังคงเข้าถึงสื่อหลักอย่าง โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามสื่อออนไลน์ก็เข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคกลุ่มนี้ในการบริโภคข่าวสารต่างๆผ่านทาง YouTube และการดูรายการทีวีย้อนหลังผ่านทางมือถือ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสังคมต่างๆเช่น กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว สำหรับผู้บริโภครุ่นอื่นๆคงมีความคุ้นชินกับสื่อออนไลน์พอสมควรแล้วโดยเฉพาะคนยุคมิลเลนเนียล ที่อยู่ในช่วงส่งต่อมายังยุคดิจิตอล เรียนรู้ เติบโตขึ้นมาในยุคนี้ และ Gen Z ที่เกิดมาในยุคดิจิตอลโดยแท้จริง จะเห็นได้ว่าสื่อออนไลน์ได้เข้ามาถึงผู้บริโภคเกือบทุกกลุ่มไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วลูกค้าของคุณล่ะอยู่ตรงไหน?

  1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม วางแผนสื่อให้โดนใจ

นอกจากการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้ว เราควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการให้มาเป็นลูกค้าของเราในอนาคตด้วยครับ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรให้ความใส่ใจก็คือ กลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง โดยไม่มองในเชิงประชากรศาสตร์ หรือกายภาพเท่านั้น หากแต่เพิ่มในเรื่องของการดำเนินชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นเพศชาย อายุระหว่าง 18-34 ปี ชื่นชอบเทคโนโลยี ใช้เวลาว่างไปกับการหาข้อมูลอุปกรณ์ไอทีต่างๆในอินเตอร์เน็ต ชอบเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน ฯลฯ การเข้าใจไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค จะเป็นประโยชน์ด้านความสามารถในการผลิตสินค้าหรือบริการได้ตอบโจทย์ความต้องการและการเลือกใช้สื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสูงสุด

  1. ออนไลน์ ออฟไลน์บูรณาการให้ครบวงจร

การวางแผนสื่อยุคดิจิตอลควรทำควบคู่กันไปทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ โดยเลือกสื่อโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม วิเคราะห์ดูว่าลูกค้าของคุณนั้นอยู่ในแพลตฟอร์มใด ชอบทำอะไร และไม่ควรเลือกใช้สื่อเพียงสื่อใดสื่อหนึ่ง เพราะอาจไม่เข้าถึงลูกค้าของคุณก็ได้ การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้หลากหลายและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย สมัยนี้ผู้บริโภคเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลของสินค้าในอินเตอร์เน็ตก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งจากการวิจัยของ Bazaar Voice พบว่าทุกๆการรีวิวของผู้บริโภคในออนไลน์จะมีผลทำให้เกิดการซื้อขายออฟไลน์เพิ่มขึ้นถึง 4-5 เท่า เมื่อเทียบกับสินค้าแบบเดียวกันที่ขายในออนไลน์ เห็นไหมครับว่าเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์และออฟไลน์เริ่มจางลงทุกที ถ้าสามารถบูรณาการได้ทุกช่องทางก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ประกอบการ และลูกค้าเองครับ

การใช้สื่อออนไลน์และออฟไลน์ล้วนมีข้อดีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าหรือธุรกิจนั้นๆ ผู้ประกอบการควรแบ่งสัดส่วนการตลาดโดยคำนึงถึงความเหมาะสมในด้านต่างๆ และไม่ลืมที่จะสร้างความเชื่อมั่นในตัวสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภค แต่ละช่องทางการตลาดย่อมสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคแตกต่างกันไป วิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม นอกจากจะเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมแล้ว ยังต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง

สุดท้ายครับ ขึ้นชื่อว่ายุคดิจิตอลสำหรับผมแล้วความรวดเร็วในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ต่างๆให้รับมือกับทุกสถานการณ์ถือเป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญครับ อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนต้นครับ “ไม่ปรับก็ต้องไป” แล้ววันนี้คุณปรับตัวแล้วหรือยังครับ?

 

บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสท์ทูเดย์

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s