เริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อย่างไร Brand.com หรือ Marketplace ดี!

อีคอมเมิร์ซปีนี้ จากการที่ผมได้แชร์ข้อมูลกับกูรูในวงการอีคอมเมิร์ซระดับบิ๊กๆ ในงาน Priceza Awards ซึ่งเราต่างเห็นตรงกันว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะโตกว่าร้อยละ 20 เพราะสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจ หรือ Ecosystem ค่อนข้างพร้อมกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา จึงเป็นไปได้ว่าจะเกิดการโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่องไปอีกหลายปี

เมื่อเป็นแบบนี้ ผมเชื่อว่ามีแบรนด์ หรือ ธุรกิจ SME จำนวนไม่น้อย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงออฟไลน์อยู่ เริ่มสนใจที่จะขยับขยายมาสู่ช่องทางออนไลน์ และอยากทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แต่ก็มองว่ามันยาก อยากทำเว็บไซต์ให้แบรนด์ของตัวเอง แต่ก็กลัวว่าจะไม่รุ่ง ว่าแต่ว่าสรุปแล้ว Brand.com มันจะทำได้ไหมผมมีคำตอบ…

Brand.com ควรทำหรือไม่ สำหรับการเริ่มต้น

แม้ว่าจะมีกระแสมากมายว่าการทำ Brand.com นั้นไม่ควรทำ แต่ผมว่ามันก็ไม่สามารถฟันธงได้เสมอไปสำหรับทุกแบรนด์ เพราะจากที่ผมได้พูดคุยกับกูรูวงการอีคอมเมิร์ซมานั้น ทุกคนต่างมองว่า มันไม่ใช่ว่าคนที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะทำ brand.com ไม่ได้ เพราะเนื่องจากพฤติกรรมของนักช้อปคนไทยที่ยังเสิร์ช Google เวลาอยากค้นหาสินค้าอยู่ ดังนั้น brand.com ยังถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี

ถามว่าเพราะอะไรถึงยังเป็นทางเลือกที่ดีนั้น ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดถึงเรื่อง Ecosystem ไปว่า ไม่ว่าจะเป็น Marketplace หรือไม่ว่าจะเป็นร้านค้า SME มันมีกลุ่มของมันอยู่ สิ่งสำคัญคือ ผู้บริโภคอยากซื้อจากใครไม่ใช่ว่าจะทำ brand.com แล้วไม่มีโอกาสขายได้ ไม่ใช่ เพราะอย่างบางสินค้านั้น ผู้บริโภคก็ต้องการความน่าเชื่อถือ ต้องซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ และยิ่งซื้อกับแบรนด์ก็ยิ่งมั่นใจได้มากกว่า เช่น เครื่องสำอาง สมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น สินค้าประเภทนี้ brand.com ได้เปรียบกว่า มีโอกาสเกิดมากกว่า เพราะผู้บริโภคมองว่าถ้าซื้อกับแบรนด์โดยตรงแล้วมั่นใจได้ว่าได้ของแท้ชัวร์ ฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ ผมก็มองว่า Brand.com ก็น่าทำ

แต่ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่คนที่คิดจะทำ Brand.com คือ จะต้องคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าจะทำจริงๆ เราก็ต้องมองไปให้ลึกถึงกระบวนการข้างใน เนื่องจากว่าการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นมันประกอบไปด้วยเรื่องของ Marketing ที่ต้องหาทราฟฟิกเข้ามาให้เยอะมากที่สุด ต้องมี Commercial ซึ่งอันนี้ทุกแบรนด์ย่อมมีของอยู่แล้ว แล้วสุดท้ายคือต้องมี Operation ที่รายละเอียดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการขายมันเยอะมาก ทั้ง  Call Center ทั้งระบบการจัดส่ง การติดตามการจัดส่ง ทั้งเรื่อง Payment ที่ต้องจัดการไว้รองรับลูกค้า ซึ่งถ้าคุณจะทำ Brand.com จริงๆ ก็ต้องเตรียมการในเรื่องเหล่านี้ไว้ให้รอบคอบ

ซึ่งมาถึงตรงนี้ ผมว่าก็คงมีหลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าเกิดว่าแบรนด์ยังไม่พร้อมที่จะทำ Brand.com ล่ะ จะทำอย่างไร ใช้บริการ Marketplace จะเวิร์คหรือไม่ หรือควรตัดสินใจอย่างไรดีที่จะทำให้เริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซของตัวเองได้ 

thailand-ecomscape

Brand.com หรือ Marketplace ดีล่ะ

ถ้าคุณคิดว่าในช่วงเริ่มต้นนี้ยังไม่พร้อม แบรนด์ของคุณยังไม่แข็งแกร่งพอ ยังมีเงินทุนไม่มาก และยังไม่สามารถที่จะจัดการในทุกองค์ประกอบของการทำ Brand.com ได้หมด คุณก็ต้องมองหาแพลตฟอร์ม หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ที่ทำให้คุณสามารถขายได้ โดยคุณอาจจะอาศัยวางขายบนแพลตฟอร์ม Marketplace ก่อนก็ได้ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายเจ้า และแต่ละเจ้าก็มีจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง ยิ่งถ้าเป็นเจ้าที่เปิดมานาน ก็จะมีระบบการขาย มีการจัดการเรื่องการจัดส่งสินค้า มีระบบ Payment ช่วยคุณแบบพร้อมเสร็จสรรพ สะดวกสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ซึ่งคุณจะเลือกขายกับ Marketplace เจ้าใดเจ้าหนึ่งก็ได้ หรือจะวางขายกับทุกเจ้าก็ได้ ถ้าคุณมีแรง เวลา หรือทุน อะไรก็ตามที่ทำให้คุณขายของได้ อย่าไปปิดกั้นโอกาสตัวเอง

แต่ผมจะบอกว่า ตัวเราจะรู้จักแบรนด์เรามากที่สุดครับ เพราะฉะนั้นลองมองย้อนไปที่แบรนด์ของตัวเองว่า พร้อมไหม ควรเลือกเริ่มต้นแบบไหน ซึ่งถ้าคุณมีทุน มีแรง และมีบุคลากร คุณก็สามารถทำทั้ง Brand.com ก็ได้ มีกำลังพอก็ขายทุกที่ เพราะ Brand.com สามารถที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้ง่ายกว่าการที่ไปอยู่ในมาร์เก็ตเพลส ทำให้เก็บลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อใหม่ได้ เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่มองว่า คุณจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทุกช่องทางในการขายไม่ว่าจะเป็น การทำ Brand.com หรือไม่ว่าจะเป็น Marketplace ผมมองว่าเราสามารถทำควบคู่กันไปได้ มันเป็นความสมดุลของ Ecosystem ที่มันอยู่ด้วยกันแล้วมันช่วยกันผลักให้ ecommerce system มันเติบโตมากขึ้น 

มาถึงตรงนี้ พอจะมองทิศทางต่อไปในการเริ่มต้นทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซออกแล้วใช่ไหมครับ ซึ่งสำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผมมีเทคนิคเด็ดๆ มาฝากทิ้งท้ายไว้ให้ 

5 เทคนิคที่ต้องรู้ให้ได้ ก่อนเริ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

  1. ต้องวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค ตอบให้ได้ว่าจะขายใคร และต้องรู้จักลูกค้าให้ถ่องแท้มากที่สุด
  2. สินค้า และบริการต้องมีคุณภาพ ต้องเฉพาะกลุ่ม และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรา
  3. วางแผนการตลาด และช่องทางการขายให้ไปถึงลูกค้าได้ แล้วธุรกิจเราต้องมีทุนและมีแรงทำ
  4. บริหารจัดการสต็อคสินค้า การชำระเงิน และโลจิสติกส์ ต้องเตรียมการให้ดี มีทุกอย่างพร้อม
  5. บุคลากรมืออาชีพ เข้าใจธุรกิจออนไลน์ว่ามีความแตกต่างจากธุรกิจออฟไลน์

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่าไปนั้น เห็นไหมว่ายังมีโอกาสที่คุณสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ แล้วก็มีอีกหลายช่องทางที่จะให้คุณทำเงินจากฝั่งออนไลน์ได้ แม้ว่าจะต้องเตรียมการหลายสิ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือการเริ่มต้นลงมือทำ “อย่างจริงจัง” เพราะอีคอมเมิร์ซไม่ได้ยากเกินไปสำหรับทุกคน

 

บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s