หลายครั้งที่เรามักได้ยินคำว่า “มิลเลนเนียล” ในบริบทต่างๆซึ่งส่วนมากแล้วเรามักเรียกแทนคนกลุ่มนี้ว่า “คนยุคมิลเลนเนียล” ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้เข้ามามีบทบาทกับสังคมมากขึ้นนะครับ รวมถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปด้วย ในบทความนี้ผมจึงขอเจาะไปในกลุ่มมิลเลนเนียลว่าคือใคร พฤติกรรมการช้อปปิ้งเป็นอย่างไร แล้วในเชิงผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซเองจะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร ลองติดตามกันดูนะครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก “คนยุคมิลเลนเนียล” กันครับ จริงๆแล้วคนกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วนะครับในชื่อเรียกที่ว่า Generation Y หรือเจนวายนั่นเองครับ คนกลุ่มนี้คือผู้ที่เกิดในช่วงปี 1980 ไปจนถึงช่วงกลางของยุค 90 หรือจนถึงต้นปี 2000 สำหรับตัวผมเองคนยุคมิลเลนเนียลน่าจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 18-34 ปี เป็นกลุ่มคนที่เติบโตในช่วงเปลี่ยนผ่านสหัสวรรษ (Millennium) นั่นเองครับ จากรายงานของ Millennial Week พบว่าคนกลุ่มมิลเลนเนียลนั้นมีจำนวนมากที่สุดถึง 1.8 พันล้านคนจากประชากรทั่วโลกซึ่งมีจำนวน 7 พันล้านคน และยังมีรายงานจาก ATKearney ซึ่งพบว่า ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานั้น ฟิลิปปินส์ และเวียดนามเป็น 2 ใน 8 ประเทศที่ติดอันดับในการมีจำนวนประชากรยุคมิลเลนเนียลมากที่สุดด้วย ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีจำนวนประชากรของแต่ละกลุ่มไม่เท่ากันครับ
สำหรับประเทศไทยเองก็มีประชากรกลุ่มมิลเลนเนียลกว่า 20 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด โดยข้อมูลจาก UN ยังได้จัดลำดับกลุ่มที่มีจำนวนประชากรรองลงมาได้แก่ Gen X, Baby Boomer และGen Z ครับ ปัจจุบันคนยุคมิลเลนเนียลได้โตเป็นผู้ใหญ่ บ้างก็มีครอบครัว มีลูก มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป และยังมีการใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น หากมองในแง่ของจำนวนประชากรในกลุ่มนี้ก็อาจกล่าวได้ว่า คนยุคมิลเลนเนียลนั้นจะมีบทบาทสำคัญและเป็นผู้กำหนดทิศทางใหม่ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลอีกด้วย แน่นอนครับว่าลูกค้ายุคมิลเลนเนียลนั้นก็มีความแตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆด้วยเช่นกัน หากผู้ประกอบการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้มากขึ้น และกำหนดรูปแบบ วิธีการสื่อสาร ตลอดจนกลยุทธ์ต่างๆให้มีความเหมาะสมก็จะสามารถครองใจผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลได้ไม่ยากครับ
คนยุคนี้จะมีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะในเรื่องของอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคเฟื่องฟู ได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะการใช้งานอินเตอร์เน็ตซึ่งจะใช้ควบคู่กันไปทั้งการทำงานและการใช้งานส่วนตัว โดย ETDA ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทย ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า Gen Y หรือ มิลเลนเนียล ใช้งานอินเตอร์เน็ตเฉลี่ย 7.6 ชั่วโมงต่อวัน โดยผ่านสมาร์ทโฟนสูงสุด รองลงมาคือเดสก์ท็อป และโน้ตบุ้ค ซึ่งการใช้โซเชียลมีเดียยังเป็นกิจกรรมยอดนิยมสูงสุดด้วย สำหรับการช้อปปิ้งของคนยุคนี้ก็แตกต่างจากคนยุคอื่นๆนะครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “Mobile First Attitude” ซึ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเข้ามามีบทบาทในการซื้อของออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซเองก็ได้มีการพัฒนารูปแบบของเว็บไซต์ให้รองรับกับทุกอุปกรณ์สื่อสาร รวมไปถึงการสร้างแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นมาด้วย นอกจากนั้น โซเชียลมีเดียได้เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า โดยปกติแล้วผมคิดว่าร้านค้าส่วนมากก็จะมีโซเชียลมีเดียอยู่แล้วนะครับสำหรับใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างร้านค้าและลูกค้า เพื่อนำเสนอเนื้อหาต่างๆ การรีวิวสินค้าจากลูกค้า แม้กระทั่งการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียก็มีให้เห็นกันอย่างหนาตาซึ่งคนยุคมิลเลนเนียลเองก็ค่อนข้างเปิดใจรับโซเชียลมีเดียให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ครับ
ในขณะที่คนยุคมิลเลนเนียลมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอาจจะไม่ได้หวั่นไหวในเรื่องราคามากนักนะครับ แต่ก็ยังต้องการที่จะเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนการตัดสินใจซื้ออยู่ดี อ้างอิงจากสถิติของไพร์ซซ่าประเทศไทยในปี 2016 พบว่า คนยุคมิลเลนเนียล (อายุ18-34ปี) เข้ามาใช้บริการค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาเพิ่มขึ้นจากปี 2015 ถึง 75.76% ผมมองแบบนี้นะครับ คนยุคมิลเลนเนียลเองอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องของราคาเป็นอันดับหนึ่ง แต่จะเน้นที่ความสะดวกสบายจากการช้อปปิ้งออนไลน์ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงความพร้อมในการจัดส่งสินค้าของแต่ละร้านค้ามากกว่าครับ ถ้าร้านค้าไหนที่ให้บริการหรือสนับสนุนความคาดหวังของคนยุคมิลเลนเนียลในส่วนนี้ได้ ผมคิดว่าถ้าราคาต่างกันเล็กน้อยก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของคนยุคมิลเลนเนียลเลยครับ
ดังนั้น การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าถือเป็นปัจจัยสำคัญครับ ยังจำเรื่อง Omni-Channel ได้ไหมครับ ไม่เพียงแต่เราจะมอบคุณค่าให้กับลูกค้าแล้ว เราควรลดช่องว่างในการซื้อขายระหว่างออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อสร้างจุดเด่นและเน้นย้ำการรับรู้ของลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง ฝากไว้นะครับ การเข้าใจและได้ใจผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มนั้นเป็นหัวใจหลักในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จครับ
บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสท์ทูเดย์