ทุกวันนี้ การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอีกต่อไป แต่องค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยให้อีคอมเมิร์ซกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั่นก็คือ “ระบบการชำระเงินที่ดี” เพราะหากผู้ซื้อสามารถจ่ายเงินซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย แปลว่าผู้ประกอบการเองก็สามารถที่จะระบายสินค้าและมีรายได้เข้ามาคล่องมือเช่นเดียวกัน และด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซจึงทำให้ระบบ e-Payment ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยซัพพอร์ตธุรกิจนี้ จึงเป็นอะไรที่น่าจับตามองมากทีเดียว
E-Payment คืออะไร
E-Payment หรือ ระบบการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ไม่จำกัดแค่กระบวนการการชำระเงินออนไลน์เท่านั้น การทำธุรกรรมผ่านตู้ ATM ก็ถือเป็นการใช้ระบบ e-Payment เช่นกัน
ทั้งนี้ ETDA ได้เผยผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2559 โดยแบ่งรูปแบบการชำระเงินอีคอมเมิร์ซในไทย ออกเป็น
ผ่านทางออฟไลน์
- ชำระเงินปลายทางกับพนักงานโดยตรง (COD)
- ชำระเงินผ่านผู้ให้บริการเคาน์เตอร์รับชำระเงิน เช่น 7-11, Tesco Lotus, Big C เป็นต้น
ผ่านทางออนไลน์
- ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
- ชำระเงินผ่าน Paypal
- ชำระเงินผ่านระบบ e-banking (รวม Internet Banking, ATM Telephone Banking)
- ชำระเงินผ่านระบบ Mobile Payment (เช่น m-Pay, True Money เป็นต้น)
โดยปัจจุบันผู้ให้บริการ e-Payment ในประเทศไทยนั้น มีหลายเจ้าด้วยกัน มีการก่อตั้งชมรมผู้ประกอบการ E-Payment & E-Money ประเทศไทย มาตั้งแต่เมื่อปี 2015 โดยสมาชิกนั้นมีทั้ง mPay, True Money, Paysbuy, Thai Smart Card, NetBay, Rabbit, MOL, Pay Solutions, 2C2P และ TARAD.com เป็นต้น
จับตาสถานการณ์ e-Payment ในภูมิภาคเอเซีย
นอกจากการเติบโตของระบบ e-Payment จะสามารถสร้างผลกระทบด้านบวกให้กับเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยมีสถิติจาก Let’s Talk Payments ที่รายงานผลการวิจัยอันน่าทึ่งว่า ในช่วงปี 2011 – 2015 ระบบ e-Payment สามารถสร้างรายได้กว่า 296 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้จีดีพีใน 70 ประเทศเติบโตขึ้น ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นเองครับ
- ในประเทศจีนเมื่อ ปี 2016 ที่ผ่านมา มีการเผยตัวเลขจาก Alibaba ยักษ์ใหญ่ของวงการอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเปิดให้บริการ e-Payment ในลักษณะกระเป๋าเงินบนสมาร์ทโฟน ชื่อ “Alipay” ซึ่งได้รับความนิยมในจีนอย่างมาก มีฐานผู้ใช้ทะลุ 450 ล้านคนที่จ่ายเงินผ่าน Alipay และมีการเปิดเผยว่า มียอดใช้จ่ายผ่าน Alipay มีมูลค่าเฉลี่ยสูงถึง 20,400 เหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา ทางด้าน Tencent Group เองก็มีแพลตฟอร์มชำระเงินที่ชื่อว่า “WeChat Pay” สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆในจีน เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจ่ายเงินที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้นทีเดียวครับ
- ใกล้เข้ามาอีกนิด สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เอง ก็เริ่มมีการใช้ e-Payment มากขึ้น โดยในประเทศอินโดนีเซียนั้น ด้าน GoJek (แอพบริการโดยสารมอเตอร์ไซค์) ก็มีแพลตฟอร์มการชำระเงิน ชื่อว่า “GoPay” ซึ่งมีรายงานจาก Bloomberg ว่า GoPay นั้นมี Account มากกว่าครึ่งหนึ่งของ GoJek แล้ว และแพลตฟอร์มนี้สามารถใช้ได้กับทุกบริการจาก GoJek โดยคุณไม่ต้องชำระค่าบริการเป็นเงินสดเลยครับ
สถานการณ์ E-Payment ในไทย
- รัฐบาลได้ผลักดัน National e-Payment มาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้มีระบบรองรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่สำคัญในอนาคตครับ
- กลุ่มสตาร์ทอัพ หรือ Fintech มีผู้เล่นรายใหม่ในตลาดจำนวนมาก และเริ่มพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงิน สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นครับ
- แนวโน้มของการไม่ต้องใช้เงินสด หรือสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) มาแน่นอนไม่เกิน 5 ปี (ข้อมูลจากงาน Priceza Awards 2016) แต่ในปัจจุบันนักช้อปไทยยังชอบ COD หรือการชำระเงินปลายทางเมื่อได้รับสินค้านะครับ เนื่องจากกลัวความเสี่ยง และไม่ปลอดภัยครับ
ทิศทาง e-Payment ไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป
เท่าที่ผมดูสถิติในประเทศไทยจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2558 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 9.0 โดยการใช้บัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงิน หรือ Payment cards มีจำนวนปริมาณสูงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 55.2 ของการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และรูปแบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2553-2558 เป็นต้นมา ก็คือ เงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Money ครับ โดยโตขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 33.0 ต่อปี จะเห็นได้ว่าทิศทางของ e-Payment นั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆนะครับ
ข้อมูลที่ผมได้กล่าวไปทั้งหมดนั้น ผมถือว่า e-Payment ในประเทศไทยมีความท้าทายระดับหนึ่ง ในการจะสร้างให้ e-Payment ในรูปแบบต่างๆเป็นที่แพร่หลายในระดับ Mass ทั้งนี้ e-Payment จะบูมได้ในไทยคงต้องได้รับการสนับสนุนจากหลายๆภาคส่วนทั้ง ภาครัฐ และภาคเอกชนเอง ต้องให้ความร่วมมือ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับสังคมอีคอมเมิร์ซให้พัฒนาต่อไปอีกระดับครับ
บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์