ลงทุนเรื่องอะไร เพื่อพัฒนาอีคอมเมิร์ซ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้ยิน ได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามามากมาย โดยเฉพาะช่วงปีหลังมานี้มีสตาร์ทอัพหลายรายเกิดขึ้น ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้รวดเร็ว แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ๆย่อมเป็นที่น่าดึงดูดใจ แต่ด้วยเงินลงทุนที่มีจำกัด ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซจึงจำเป็นจะต้องเลือกใช้เงินลงทุนให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากที่สุด มาดูกันครับว่าอีคอมเมิร์ซควรจะลงทุนเพื่ออะไรกันบ้าง

Cloud

โดยในแต่ละปี เทรนด์ของเทคโนโลยีก็มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น หากพูดถึงช่วงปีที่ผ่านมา ธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนเรื่องการจัดการบริหารฮาร์ดแวร์ และ Infrastructure คงไม่พ้นที่จะพูดถึงการใช้ Cloud Hosting ซึ่งในปีนี้ กระแสเรื่อง Cloud ก็เริ่มจะแผ่วลงไปแล้ว เพราะตอนนี้ ธุรกิจไหนๆต่างก็พากันอยู่บน Cloud เป็นที่เรียบร้อย

แล้วเทคโนโลยีใด น่าจับตามองในปี 2018

จากผลการสำรวจของซอฟตแวร์เฮ้าส์ในฝั่งยุโรปอย่าง  Divante ที่มีผู้เข้าร่วมจากองค์กรในระดับผู้จัดการ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน พบว่า Content Marketing ยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2017 โดยเนื้อหาของการทำ Content Marketing ในปีนี้จะเป็นการสร้างคอนเทนต์ด้วยการผสานเทคโนโลยีอย่าง Business Intelligence (BI), Big Data และ Automation เข้าด้วยกัน และหากมองยาวไปอีกสัก 5 ปีข้างหน้า ผลการสำรวจพบว่า BI และ Artificial Intelligence (AI) น่าจะเป็นสองเทคโนโลยีที่จะยังอยู่ในเทรนด์ต่อไป โดยผมขออธิบายเทคโนโลยีตัวเด่นๆ ดังนี้ครับ

ที่มา: Medium

BI

BI หรือ Business intelligence คือ เทคโนโลยีในการนำเสนอข้อมูลที่มีปริมาณมากๆในรูปแบบที่ดูง่ายขึ้น อาจจะด้วยการจัดกลุ่ม หรือการแสดงผลในเชิงสถิติ เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ วางกลยุทธ์ วิเคราะห์ยอดขาย ผลการดำเนินงาน รวมถึงข้อมูลต่างๆที่จะมีผลกระทบต่อธุรกิจ

Big Data

การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะจากช่องทางออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งบ่อยครั้งจะเป็นข้อมูลในอดีต  และข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกค้าเพื่อใช้คาดการณ์ในอนาคต การทำ Big Data มีขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบวิธีการหาข้อมูล การจัดเก็บ การวิเคราะห์ ไปจนถึงวิธีการนำเสนอ ซึ่งในส่วนหลังนี้ ก็สามารถนำ BI เข้ามาร่วมใช้ในการนำเสนอข้อมูลได้

Automation

Automation หรือ ระบบอัตโนมัติ ในอีคอมเมิร์ซอยู่ในรูปแบบของเครื่องมือที่ช่วยลดขั้นตอน และเวลาในการทำงาน เช่น Contalog ที่ใช้ในการจัดระบบสินค้าคงคลัง และระบบการสั่งซื้อสินค้า หรือร้านค้าออนไลน์ที่สามารถใช้ Buffer เพื่อตั้งเวลาการลงโพสต์ในโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มอย่าง ทวิตเตอร์ เฟสบุค อินสตาแกรม และยังสามารถติดตามผลของการโพสต์ในแต่ละที่ได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย

AI

AI หรือ Artificial Intelligence การสร้างความฉลาดให้ระบบคอมพิวเตอร์ให้เสมือนกับความฉลาดของมนุษย์ ด้วยการใส่ข้อมูลในระบบเพื่อการเรียนรู้ การสร้างเหตุผลด้วยการสร้างกฏในระบบเพื่อใช้ในการตัดสินใจ และสร้างระบบให้เรียนรู้ที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตัวเอง

screenshop3.jpg

ที่มา: Screenshop

การผสมผสาน

โดยในหลายตัวอย่างที่เราเห็นกัน ธุรกิจมักจะนำจุดเด่นของเทคโนโลยีหลายๆตัวมารวมกัน เช่น

  • แอพฯที่มีชื่อว่า Screenshop ที่ใช้ AI ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆอย่าง Computer Learning Vision, Language Processing, Recommendation Algorithm เพื่อแนะนำสินค้า ด้วยการให้ผู้ใช้สแกนรูป ที่ถ่ายมาจากแอพฯอื่นๆ อย่าง อินสตาแกรม หรือ เฟสบุค จากนั้น Sceenshop จะทำการตรวจดูสินค้าในรูปภาพ และทำการแนะนำว่า สินค้าในรูปนี้ หรือสินค้าใกล้เคียงจะหาซื้อได้ที่ใด
  • หรือการใช้ Big Data ร่วมกับ AI ของ Amazon เพื่อทำให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ธุรกิจสามารถนำเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และทำแผนการตลาดได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น

นอกจากเทรนด์หลักๆที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีเทรนด์ที่น่าสนใจ และน่าติดตาม ได้แก่ การสร้างประสบการณ์ลูกค้าบนเว็บด้วย Progressive Web App, การจัดส่งสินค้าภายในหนึ่งวัน รวมไปจนถึงการใช้บิตคอยน์ (Bitcoin)

ทั้งนี้ เพื่อที่จะโฟกัสกับเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจ ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซอาจจะแบ่งกลุ่มเทคโนโลยีเทรนด์ออกเป็นสามกลุ่มและเลือกลงทุนตามสัดส่วนที่เหมาะสม ดังนี้ครับ

  1. เทคโนโลยีที่จำเป็นและสนับสนุนกลยุทธ์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  2. เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างโอกาสใหม่ๆในตลาด สร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
  3. เทคโนโลยีเพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคตของอีคอมเมิร์ซที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป

ซึ่งการเลือกลงทุนในเทคโนโลยีต้องขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจ และกลยุทธ์ของแต่ละบริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซเองก็ควรจะติดตาม และทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่มีกับธุรกิจทั้งในปัจจุบัน และอนาคต โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้นั้น หากธุรกิจเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ อาจจะมองหาพาร์ทเนอร์ร่วมที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างสตาร์ทอัพก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ

 

บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s