ผ่านกันไปแล้วนะครับสำหรับครึ่งปีแรก เราได้เห็นหลายๆธุรกิจได้ทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามทิศทางของการตลาดในปัจจุบัน เพื่อให้ธุรกิจเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น มีการนำเอาเครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆมาใช้ในการขับเคลื่อนให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรกันบ้าง ลองมาดูกันครับว่าผ่านมาแล้วครึ่งปีมีอะไรน่าสนใจที่ธุรกิจจะนำมาปรับใช้กัน
Go Online
ครึ่งปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า ภาครัฐได้มีการสนับสนุนให้ SMEs ที่ยังเป็นออฟไลน์ เข้ามาสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยตั้งแต่ปีที่แล้วภาครัฐฯได้มีโครงการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น SMEs Go Online ของ ETDA ที่มีการอบรมผู้ประกอบการรายย่อยให้พร้อมเข้าสู่โลกออนไลน์ หรือ การใช้ช่องทางออนไลน์อย่าง com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันและสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs เชื่อมต่อไปตลาดสากล คาดหวังการสร้างมูลค่าจากการเข้าสู่ออนไลน์ของ SMEs ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีเลยครับ
Mobile First
การเข้าถึงข้อมูล หรือสินค้า ผ่านทางสมาร์ทโฟนยังคงเป็นที่นิยม เนื่องจากความง่ายและสะดวกในการที่จะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้ได้ในทันทีที่ต้องการ เพื่อหาข้อมูลทันทีที่เกิดคำถาม ไม่ว่าจะอ่านรีวิว อ่านบล็อก หรือดูราคาสินค้า สมาร์ทโฟนไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์เชื่อมโลกออนไลน์ ด้วยความคล่องตัวและความรวดเร็วของการส่งข้อมูลในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนยังเป็นสื่อสำคัญในการทำการตลาด สำหรับ Micro Moment หรือช่วงเวลาทันทีที่เราอยากรู้ แล้วหยิบมือถือขึ้นมากด ธุรกิจจะต้องมองให้ออกว่าจะเข้าถึงลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟนเหล่านี้ได้อย่างไร และวางแผนทำการตลาดให้ครอบคลุม
AI และ Machine Learning
เราจะได้เห็นการนำเอาเทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามาในอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย การบริการลูกค้า และต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งธุรกิจชั้นนำต่างให้ความสำคัญในการที่จะนำ AI เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ การประยุกต์ใช้ AI ในอีคอมเมิร์ซนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น AI ที่นำมาใช้ในการบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซอย่าง Chatbots ผู้ช่วยช็อปปิ้งเสมือนจริง หรือ Virtual Personal Assistant (VPA) ที่ช่วยทำให้กระบวนการขายเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
การตลาดแบบเฉพาะบุคคล
หรือ Personalized Marketing สามารถทำได้จากการต่อยอด Ai และ Machine Learning เข้ามาใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการรายบุคคลของลูกค้าตามประวัติการเข้าชมสินค้า และการสั่งซื้อสินค้า และเราสามารถทำเป็นระบบอัตโนมัติที่จะแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจชื่นชอบ เป็นลูกเล่นในเว็บอีคอมเมิร์ซ หรือจะทำเป็นรายการสินค้าแนะนำ สินค้าลดราคา และมอบสิทธิพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อซ้ำ
Video Content
อีกเครื่องมือทางการตลาดที่เราคุ้นเคยกันมาหลายปี ครึ่งปีที่ผ่านมานี้การทำวิดีโอยิ่งมีการแข่งขัน และจริงจังขึ้นไปอีกระดับ หลักในการทำวิดีโอคอนเทนต์นั้นทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคโต้ตอบกับแบรนด์ หรือสื่อสารออกไปเพื่อทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้น เราจำเป็นต้องสร้างงานที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความโดดเด่นด้วยเนื้อหาที่ดี ภาพต้องสวย เน้นการให้ข้อมูล มากกว่าจะขายของ ปัจจุบันมีฟีเจอร์ Live ต่างๆ ในโซเชียลมีเดียก็จะช่วยสร้างกระแส และกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจ รู้จักและติดตามแบรนด์ หรือสินค้ามากขึ้น
ขอเสริมในเรื่องของภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในปีนี้ที่ยังมีการเติบโตไปในทิศทางที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าอีคอมเมิร์ซประเภทที่เติบโตดีสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อ้างอิงจากข้อมูลไพรซ์ซ่าประเทศไทย ที่มีผู้บริโภคเข้ามาค้นหาสินค้า และเปรียบเทียบราคา กว่า 70 ล้านครั้ง (1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 61) ได้แก่ สินค้าประเภท เสื้อผ้าและแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร ยังคงเป็นประเภทสินค้าที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสินค้าประเภท ยานพาหนะ และอุปกรณ์ตกแต่ง ของสะสมและของเก่า เป็นประเภทสินค้าที่อยู่ในท็อป 5 ของครึ่งปีแรกด้วย
ผู้ประการอีคอมเมิร์ซที่ได้ติดตามเทรนด์ต่างๆนั้นอาจจะพอมองเห็นแนวทางที่จะนำเอาเทรนด์ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจกันบ้างแล้วนะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าครึ่งปีหลังนี้การทำธุรกิจที่มีการพัฒนาตัวเองแบบไม่หยุดนิ่งจะช่วยทำให้อีคอมเมิร์ซไทยไปได้ไกลขึ้นอีกนะครับ
บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์