ลูกค้า Gen Z อนาคตตลาดอีคอมเมิร์ซ

เรามาทำความรู้จักกับ Gen Z กันสักหน่อยครับ หลายๆ คนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Gen Z นั้นคือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1995 – 2015 โดยประมาณ หรือพูดได้ว่า ณ ปี 2018 นี้ เด็ก Gen Z ที่มีอายุมากที่สุดจะมีอายุราว 23 ปีเท่านั้นเอง  โดยพื้นฐานของเด็ก Gen Z จะเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาในยุคที่มีความเพียบพร้อมด้านเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างจะมีความสะดวกสบายมากกว่ายุคก่อนๆ

ลองเปรียบเทียบง่ายๆ กับกลุ่ม Gen Y ที่เกิดมาพร้อมกับการต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโมเด็มความเร็ว 56k ในช่วงวัยรุ่น ในขณะที่ช่วงวัยรุ่นของกลุ่ม Gen Z นั้นมีทั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และการเข้ามามีบทบาทของสมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลกอย่าง iPhone รวมไปถึงสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android อีกมากมาย ด้วยปัจจัยเหล่านี้เอง จึงทำให้กลุ่มคน Gen Z เป็นกลุ่มที่สามารถเรียนรู้และใช้งานเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว มีความสนอกสนใจกับ คอนเทนต์ในโลกอินเตอร์เน็ต และไม่ชอบความเยิ่นเย้อเสียเวลา

เหตุใดผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซจึงต้องให้ความสำคัญทางด้านการตลาดกับกลุ่ม Gen Z

ด้วยความที่กลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มคนที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดีและเรียกได้ว่า เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในโลกดิจิตอลแบบเต็มตัว จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะเมื่อกลุ่ม Gen Z เหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนผ่านจากวัยเรียนไปสู่วัยทำงานที่จะมีกำลังการซื้อสูงขึ้น และในอนาคตอันใกล้จะเป็นกลุ่มที่ครองตลาดด้านอีคอมเมิร์ซในที่สุด มีการคาดการณ์กันว่า ภายในปี 2020 กลุ่มคน Gen Z จะมีสัดส่วนในตลาดกว่า 40% ของตลาดผู้บริโภคทั้งหมดเลยทีเดียว

ปัจจัยที่เราควรจะให้ความสำคัญ

Personalization

กลุ่มคน Gen Z ชอบ คอนเทนต์ที่มีความเฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับความสนใจของพวกเขาโดยตรง ดังนั้นการตลาดโดยยึดหลัก Personalization จึงเป็นเรื่องที่ควรจะคำนึงถึงอยู่เสมอ การเข้ามามีส่วนของ AI และ Machine Learning ก็เป็นอีกเทคโนโลยีสำคัญที่จะช่วยให้การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นง่ายขึ้น และสามารถที่จะนำเสนอสินค้า หรือบริการแบบเฉพาะเจาะจงกับความสนใจของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้ว คน Gen Z ยังเป็นกลุ่มคนที่ชอบกำหนดแนวทางของสิ่งต่างๆด้วยตนเอง แทนที่จะต้องรอให้ผู้อื่นเป็นฝ่ายป้อนข้อมูลให้ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น การฟังเพลง ซึ่งคน Gen Y อาจจะพอใจกับการที่เปิดวิทยุฟังเพลงไปเรื่อยๆ จนกว่าเพลงโปรดของเราจะมา ในขณะที่คน Gen Z มีความต้องการที่จะกำหนดรายชื่อเพลงเฉพาะที่ตนเองสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงผ่าน Spotify หรือการเลือก เพลย์ลิสต์ส่วนตัว ซึ่งสามารถที่จะฟังเพลงที่ชอบ หรือฟังเฉพาะแนวเพลงที่ชอบที่ใดเมื่อไรก็ได้

ตัวเลือก

คน Gen Z ยังต้องการที่จะควบคุมทางเลือกในการใช้บริการด้วยตนเอง เราจะเห็นได้ว่า กลุ่มคน Gen Z มักจะหา “ตัวเลือก” เพื่อทำการเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการ ก่อนทำการตัดสินใจเลือกใช้บริการหรือซื้อสินค้านั้นๆเสมอ ดังนั้น การจัดให้สินค้ามีระบบเรตติ้ง หรือระบบรีวิว ก็เป็นส่วนช่วยให้คน Gen Z สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หรือแม้กระทั่งการกำหนดราคาสินค้าที่ดึงดูดใจมากกว่าคู่แข่ง เพราะคน Gen Z มักจะมีพฤติกรรมเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆ ร้านค้าก่อนตัดสินใจเสมอ

สมาร์ทโฟน

นอกจากนั้นแล้ว กลุ่มคน Gen Z ยังมีความคุ้นเคยกับสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า การใช้งานอีคอมเมิร์ซ หรือการใช้งานระบบอื่นๆในชีวิตประจำวันของคน Gen Z ส่วนมากจะเกิดขึ้นบน Mobile Device ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ดังนั้นการที่ระบบอีคอมเมิร์ซ หรือเว็บไซต์ของเราสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วบน Mobile Device จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่ากว่า 60% ของคน Gen Z มีแนวโน้มที่จะไม่ใช้งานเว็บไซต์ หรือแอพฯ ถ้าหากเว็บไซต์หรือแอพฯนั้นๆโหลดช้า หรือใช้งานยาก

ภาพเคลื่อนไหว

การทำโฆษณาที่เหมาะกับกลุ่มคน Gen Z ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ควรจะให้ความสำคัญ จากสถิติพบว่า Gen Z ชอบโฆษณาที่มาในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวหรือ Cinema Ads ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจที่พบว่า Youtube เป็นช่องทาง Social media ที่กลุ่มคน Gen Z นิยมมากที่สุด และคน Gen Z จะชอบที่โฆษณานั้นมีความสนุก ขบขัน หรือมีประเด็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้จะถูกอกถูกใจกลุ่มคน Gen Z มากกว่าการปรากฏตัวของเหล่าคนดังในโฆษณานั้นๆเสียอีก

จะเห็นได้ว่า คน Gen Z อาจจะดูจะเป็นกลุ่มคนที่เอาใจยากอยู่สักหน่อย แต่หากเราเข้าใจพฤติกรรมรวมถึงจุดเด่นของกลุ่มคน Gen Z และสามารถนำมาปรับใช้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการตลาดของเราได้ ก็จะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้ง่ายขึ้น นำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจกับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และจะตามมาด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นครับ

บทความนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์